วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2551

การใช้โปรแกรม Adobe Captivate 3

โปรแกรม Adobe Captivate 3




วิธีใช้โปรแกรม Adobe Captivate 3
[PDF]เอกสารประกอบการอบรมโปรแกรม Adobe Captivate 3รูปแบบไฟล์: PDF/Adobe Acrobat - แสดงเป็นแบบ HTMLความตองการทรัพยากรโดยรวม Adobe Captivate 3: Authoring .... การเปดใชงาน โปรแกรม Adobe Captivate 3. 1. คลิก Start All Program Adobe Adobe Captivate 3 ...e-learning.vec.go.th/file.php/1/data_sukhum/TrainingAdobeCaptivate3New.pdf - หน้าที่คล้ายกัน

[PDF]การสรางสื่อมัลติมีเดียดวย Adobe Captivate 3รูปแบบไฟล์: PDF/Adobe Acrobat - แสดงเป็นแบบ HTMLเรื่องที่ 1.3 อินเทอรเฟสของ Adobe Captivate 3. ตอนที่ 2 การบันทึกและปรับแตงส ไลด ... ติดตั้งโปรแกรม Adobe Captivate 3 ดวยตนเองได ...cybered.swu.ac.th/cepaper/filesupload/13.pdf - หน้าที่คล้ายกัน

VMWare

VMWare
.
สำหรับการดำเนินงานของภาครัฐ เพื่อก้าวไปสู่การเป็น e-Government ที่มีการดำเนินงานและการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ และมีความรวดเร็ว เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของหน่วยงานในทุกระดับควรมีการพัฒนาเทคนิค สร้างเสริมความรู้ประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาพัฒนาระบบต่างๆให้สามารถรองรับการให้บริการที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป หัวข้อ IT Trip ของ GITS Newsletter ฉบับนี้ จะขอแนะนำโปรแกรมที่ชื่อว่า VMWare ซึ่งคิดว่าหลายๆ ท่านอาจจะคุ้นเคยกันดี แต่สำหรับอีกหลายๆท่านก็อาจจะไม่ทราบว่าโปรแกรม VMWare นี้คืออะไร มีประโยชน์กับผู้ใช้ระบบ IT อย่างเราๆ อย่างไรบ้าง เรามาทำความรู้จักกับมันซักหน่อยดีกว่าครับ เผื่อท่านอาจจะได้ไอเดียอะไรดีดีในการใช้โปรแกรมนี้ เพื่อนำไปพัฒนาระบบหรือพัฒนาตัวเองต่อไป


รูปที่ 1 เว็บไซต์ของ VMWare http://www.vmware.com/


VMWare คืออะไร?
โปรแกรม VMWare เป็นโปรแกรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อสร้างคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Machine) ขึ้นบนระบบปฏิบัติการเดิมที่มีอยู่ ตัวอย่างเช่นในรูปที่ 2 เป็นรูปที่แสดงถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ลงระบบปฏิบัติการ Windows XP อยู่เดิม แล้วทำการลงระบบปฏิบัติการ Windows NT ผ่านโปรแกรม VMWare อีกทีหนึ่ง ซึ่งเมื่อลงแล้ว ทั้งสองระบบสามารถทำงานพร้อมกันได้โดยแยกจากกันค่อนข้างเด็ดขาด (เสมือนเป็นคนละเครื่อง) โดยคอมพิวเตอร์เสมือนที่สร้างขึ้นมานั้น จะมีสภาพแวดล้อมเหมือนกับคอมพิวเตอร์จริงๆ เครื่องหนึ่ง ซึ่งจะประกอบด้วย พื้นที่ดิสก์ที่ใช้ร่วมกับพื้นที่ดิสก์ของเครื่องนั้นๆ การ์ดแสดงผล การ์ดเน็ตเวิร์ก พื้นที่หน่วยความจำซึ่งจะแบ่งการทำงานมาจากหน่วยความจำของเครื่องนั้นๆ


รูปที่ 2 แสดงการใช้ระบบปฏิบัติการ Windows NT บน Windows XP

ปัจจุบันโปรแกรม VMWare มีเวอร์ชันทั้งสำหรับการทำงานบน Windows และ Linux หากเครื่องท่านเป็น Windows ก็สามารถลองเวอร์ชันสำหรับ Windows ได้ โดยท่านสามารถเข้าไปโหลดโปรแกรมมาทดลองใช้งานได้ที่ URL http://www.vmware.com/ แล้วเลือกที่ download และทำการดาวน์โหลด VMWare Workstation ซึ่งจะมีเวลาให้ทดลองใช้งานอยู่ที่ 30 วัน
คุณสมบัติขั้นต่ำของเครื่องคอมพิวเตอร์
- CPU ความเร็วไม่ต่ำกว่า 500 MHz
- หน่วยความจำขั้นต่ำ 256 MB
- การ์ดแสดงผลแบบ 16 บิต หรือ 32 บิต
- พื้นที่ดิสก์ในการลงโปรแกรม 80 MB สำหรับเวอร์ชัน Linux และ 150 MB สำหรับ Windows
- พื้นที่ดิสก์ขนาดไม่ต่ำกว่า 1 GB ต่อการลงระบบปฎิบัติการ 1 ระบบ

สำหรับข้อจำกัดของการทำงานบน VMWare ก็คือ VMWare จะสร้างสภาพแวดล้อมของฮาร์ดแวร์ต่างๆ ซึ่งเป็นของตัวโปรแกรม VMWare เอง ดังนั้นการใช้ฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์หลักและคอมพิวเตอร์เสมือนจะไม่เหมือนกัน จึงไม่สามารถที่จะติดตั้งไดรเวอร์ของฮาร์ดแวร์จริงๆ ให้กับคอมพิวเตอร์เสมือนที่ลงผ่านโปรแกรม VMWare ได้


VMWare มีประโยชน์อย่างไร
1. ใช้จำลองการทำงาน ระหว่าง Client และ Many Server Many OS2. คุณสามารถลง บน XP หรือ Linux ก็ได้3. สามารถทดสอบ กับ Client ใน Network หรือ กับ เครื่องเดียวกับ VM server ได้4. ประหยัดค่าใช้จ่าย
วิธีการใช้โปรแกรม VMWare
วิธีการใช้ VMware by Mr.Jodoiวิธีการใช้ VMware by Mr.Jodoi ... OS ได้โดยที่ไม่ต้องมีการ restart เครื่องเลย ครับ โปรแกรม VMware ที่จะสอนการใช้นี้จะเป็น เวอร์ชั่น VMware Workstation ACE ...www.jodoi.com/vmware/vmware.html - 13k - หน้าที่ถูกเก็บไว้ - หน้าที่คล้ายกัน

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ไวรัสคืออะไร

ไวรัสคอมพิวเตอร์ คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อก่อกวน ทำลายระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล ชุดคำสั่ง หรืออุปการณ์ต่างๆ เช่น แผ่นดิสก์ ฮาร์ดดิสก์ หรือหน่วยความจำคอมพิวเตอร์ และเป็นโปรแกรมที่สามารถกระจายจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งได้โดยผ่านระบบสื่อสารคอมพิวเตอร์ เช่น โดยผ่านทางแผ่นบันทึกข้อมูล แฮนดี้ไดร์ว หรือระบบเครือข่ายการที่คอมพิวเตอร์ใดติดไวรัส หมายถึงว่า ไวรัสได้เข้าไปฝังตัวอยู่ในหน่วยความจำ คอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากไวรัสก็เป็นแค่โปรแกรมๆหนึ่ง การที่ไวรัสจะเข้าไปอยู่ในหน่วยความจำได้นั้นจะต้องมีการถูกเรียกให้ทำงานจุดประสงค์ของการทำงานของไวรัสแต่ละตัวขึ้นอยู่กับผู้เขียนโปรแกรมไวรัสนั้น เช่น อาจสร้างไวรัสให้ไปทำลายโปรแกรมหรือข้อมูลอื่นๆ ที่อยู่ในเครื่องหรือแสดงข้อความวิ่งไปมาบนหน้าจอ เป็นต้น

การป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์

1. ใช้โปรแกรมตรวจจับและกำจัดไวรัส ( Anti-Virus ) อย่างไรก็ตามไม่มีโปรแกรมตรวจจับและกำจัดไวรัส
โปรแกรมใดที่สมบูรณ์แบบการเตือนที่ผิดพลาดว่ามีไวรัส ก่อให้เกิดความรำคาญพอๆกับตัวไวรัสเอง อย่าลืมว่าจะต้อง
Update โปรแกรมที่ใช้ตรวจจับและกำจัดไวรัสอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ครอบคลุมไวรัสชนิดใหม่
2. Scan ทุกไฟล์บนดิสเกตต์ ซีดีรอม และแฮนดี้ไดร์ว ก่อนนำลงฮาร์ดดิสก์
3. Scan ทุกไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาจากอินเตอร์เน็ต
4. Scan ไฟล์หรือโปรแกรมที่ติดมากับ e-mail ก่อนที่จะเปิดอ่านหรือเก็บลงบนฮาร์ดดิสก์
5. เก็บเอกสารในรูปของ ASCII Text Mode หรือ Rich Text Format (RTF) โดยเฉพาะเอกสารที่ใช้ร่วมกันบนเครือข่าย ทั้งสองรูปแบบจะไม่เซฟส่วนที่เป็น macro ลงพร้อมกับเอกสารด้วย ซึ่งทำให้ปลอดภัยจาก macro virus6. Back up ข้อมูลและโปรแกรมบนเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญอย่าเก็บ Back up ไว้ในฮาร์ดดิสก์อันเดียวกันกับข้อมูลและโปรแกรมจริง